top of page
ค้นหา

♻️ ทำความรู้จัก “กองทุนอากาศสะอาด” — เครื่องมือใหม่เพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทย 🌿

  • รูปภาพนักเขียน: Net Zero Techup
    Net Zero Techup
  • 10 ต.ค.
  • ยาว 1 นาที
ree

♻️ ทำความรู้จัก “กองทุนอากาศสะอาด” — เครื่องมือใหม่เพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทย 🌿


ฝุ่น PM2.5 กลายเป็น “วิกฤตเงียบ” ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพ เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของคนไทย แม้ที่ผ่านมาเรามีมาตรการหลายด้าน แต่ประเทศไทยยังขาด “กลไกทางการเงินถาวร” ที่จะทำให้การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศดำเนินต่อเนื่องได้จริง


🇹🇭 เพื่อแก้ช่องว่างนี้ รัฐบาลจึงผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด โดยมี “กองทุนอากาศสะอาด” เป็นหัวใจสำคัญของกฎหมาย เพื่อเป็นแหล่งงบหมุนเวียนถาวร สำหรับสนับสนุนการลดมลพิษ การวิจัยเทคโนโลยีสะอาด และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ


⚙️ กลไกการทำงานของกองทุน

ยึดหลัก “ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย (Polluter Pays Principle)”

รายได้ของกองทุนมาจาก:

● งบประมาณภาครัฐ

● ค่าปรับจากผู้ก่อมลพิษ

● เงินสมทบจากภาคเอกชน

● ความร่วมมือจากองค์กรระหว่างประเทศ


โดยเงินกองทุนจะถูกนำไปใช้เพื่อ:

✅ สนับสนุนเทคโนโลยีและงานวิจัยด้านการลดมลพิษ

✅ เสริมศักยภาพท้องถิ่นในการจัดการคุณภาพอากาศ

✅ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

✅ ส่งเสริมความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมระดับชาติ


🎯 แล้วคนไทย “ได้อะไร” และ “ต้องปรับตัวอย่างไร”?


👥 ภาคประชาชน:

🍀 ได้อากาศที่ปลอดภัยขึ้น และสิทธิใน “อากาศสะอาด” อย่างเป็นทางการ

🍀 ได้ระบบเยียวยาและการบริหารจัดการที่โปร่งใส

⚠️ อาจมีภาษีหรือค่าธรรมเนียมทางอ้อมเพิ่มขึ้น

⚠️ ต้องปรับพฤติกรรมเพื่อลดการปล่อยมลพิษร่วมกัน


🏭 ภาคธุรกิจ:

🍀 ได้แรงจูงใจในการพัฒนาเทคโนโลยีสะอาด

🍀 เสริมภาพลักษณ์องค์กรสีเขียว และโอกาสเข้าถึงการสนับสนุนจากรัฐ

⚠️ ต้องรับ “ต้นทุนสิ่งแวดล้อม” มากขึ้น

⚠️ อาจต้องลงทุนเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ยั่งยืน


⚖️ สถานะล่าสุดของ “กองทุนอากาศสะอาด”

● ผ่านวาระที่ 1 ของร่าง พ.ร.บ. เมื่อ 17 ม.ค. 2024

● อยู่ระหว่าง วาระที่ 2 (พิจารณารายมาตรา โดยคณะกรรมาธิการ)

● สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบหมวด “กองทุนอากาศสะอาด” แล้วเมื่อ 9 ต.ค. 2025

● คาดว่าจะผ่านครบ 3 วาระและมีผลบังคับใช้ภายในปี 2026


🚩 แหล่งที่มาของข้อมูล:

● กรมควบคุมมลพิษ

● Thai PBS


 
 
 

ความคิดเห็น


Post: Blog2_Post

NET ZERO TECHUP

  • Facebook
  • Instagram
  • YouTube

©2022 by Net Zero Techup

bottom of page