♻️ Thailand's First Commercial CCS Hub: ก้าวสำคัญของไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
- Net Zero Techup
- 1 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที

♻️ 𝐓𝐡𝐚𝐢𝐥𝐚𝐧𝐝’𝐬 𝐅𝐢𝐫𝐬𝐭 𝐂𝐨𝐦𝐦𝐞𝐫𝐜𝐢𝐚𝐥 𝐂𝐂𝐒 𝐇𝐮𝐛: ก้าวสำคัญของไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
รายงานของ Global CCS Institute ระบุว่าทั่วโลกมีการประกาศโครงการ Carbon Capture and Storage (CCS) แล้วเกือบ 400 โครงการ ทั้งเชิงพาณิชย์และโครงการนำร่อง โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก การขยายตัวนี้เป็นสัญญาณสำคัญที่สะท้อนว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งศึกษาความเป็นไปได้และพัฒนาโครงการ CCS อย่างจริงจัง
🇹🇭 ในบริบทของไทย ภาคพลังงานซึ่งปล่อยคาร์บอนคิดเป็น 70% ของประเทศ กำลังเผชิญความท้าทายในการตอบโจทย์ เป้าหมาย Carbon Neutrality ปี 2050 และ Net Zero GHG ปี 2065 ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมพลังงานซึ่งมีส่วนในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดของทั้งประเทศ ต้องเผชิญความท้าทายในการที่จะผลักดันให้ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน
🍀 ด้วยเหตุนี้ ปตท.สผ. (PTTEP) ได้ริเริ่มโครงการสำคัญ 2 โครงการ ได้แก่
1️⃣ 𝐀𝐫𝐭𝐡𝐢𝐭 𝐂𝐂𝐒 𝐏𝐫𝐨𝐣𝐞𝐜𝐭
เมื่อ 8 กันยายน 2025 ปตท.สผ. ประกาศ ตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในโครงการ Arthit CCS Project ซึ่งเป็นโครงการ CCS แรกของไทย โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานเดิมร่วมกับการติดตั้งใหม่ คาดเริ่มอัดกลับ CO₂ ได้ในปี 2028 และทยอยเพิ่มสู่ศักยภาพสูงสุด 1 ล้านตันต่อปี ภายใน 5 ปี ด้วยงบลงทุนราว 10,000 ล้านบาท (≈ 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยไม่กระทบต่อการผลิตก๊าซธรรมชาติของแหล่งอาทิตย์
2️⃣ 𝐄𝐚𝐬𝐭𝐞𝐫𝐧 𝐓𝐡𝐚𝐢𝐥𝐚𝐧𝐝 𝐂𝐂𝐒 𝐇𝐮𝐛
โครงการ นำโดย ปตท.สผ. และพันธมิตรในกลุ่ม ปตท. มีเป้าหมายเพื่อดักจับและกักเก็บคาร์บอนจากกลุ่มอุตสาหกรรมใน EEC โดยรวบรวม CO₂ จากโรงงานต่างๆ มายังสถานีจัดเก็บบนชายฝั่ง ก่อนส่งออกไปกักเก็บในชั้นหินใต้อ่าวไทย โดยคาดว่าโครงการจะเริ่มระยะแรกในปี 2033 ด้วยศักยภาพกักเก็บ 6 ล้านตัน CO₂ ต่อปี และเมื่อสำเร็จจะกลายเป็นศูนย์กลางที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานด้าน Transportation & Storage ร่วมกัน ช่วยลดต้นทุน ลดความเสี่ยง และเพิ่มศักยภาพในการลดการปล่อยคาร์บอนของประเทศไทยที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
🚩 แหล่งที่มาข้อมูลและรูปภาพ:
● www.pttep.com
● www.energynewscenter.com