top of page
ค้นหา

♻️ 10 อันดับ "เทคโนโลยีดักจับคาร์บอน" ชั้นนำ ปฏิวัติการลดก๊าซเรือนกระจกปี 2024

รูปภาพนักเขียน: Net Zero TechupNet Zero Techup


♻️ 10 อันดับ "เทคโนโลยีดักจับคาร์บอน" ชั้นนำ ปฏิวัติการลดก๊าซเรือนกระจกปี 2024


PreScouter, Inc. ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับ 10 อันดับ เทคโนโลยีการจับคาร์บอน หรือ CCUS ในปี 2024 ซึ่งได้มีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างมาก รายงานฉบับนี้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีชั้นนำ 10 อันดับ โดยเน้นเทคโนโลยีที่เป็นผู้นำในการเร่งให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emissions) รวมถึงซัพพลายเออร์ พาร์ทเนอร์ เกณฑ์ประสิทธิภาพ และข้อมูลต้นทุนในแอปพลิเคชันต่างๆ ในอุตสาหกรรม


🚩 โครงการโดดเด่นที่กำลังกำหนดทิศทางอนาคต ได้แก่:

✅ Kemi Bioproduct Mill CO2 Capture (ฟินแลนด์): ตั้งเป้าดักจับ CO2 ที่ 4.2 ล้านตันต่อปี โดยใช้เทคโนโลยี Amine ของ ANDRITZ มุ่งเน้นลดการปล่อยก๊าซจากภาคอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษและกระดาษ (Metsä Group)

✅ Orchard One DAC Facility (สหรัฐอเมริกา): โรงงานของ Spiritus ตั้งเป้าดักจับ CO₂ 2 ล้านตันต่อปี โดยใช้เทคโนโลยี Direct Air Capture (DAC) สำหรับการจัดเก็บ CO2 ถาวร

✅ Mongstad Transformation (นอร์เวย์): Equinor และ Aker Solutions มุ่งเน้นการพัฒนา ไฮโดรเจนสีน้ำเงิน และ เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน โดยตั้งเป้าดักจับ CO2 ที่ 1.7 ล้านตันต่อปี

✅ SCHWENK Latvija CCS (ลัตเวีย): โซลูชันของ Capsol Technologies ASA (มีประสิทธิภาพ 90-95%) ตั้งเป้าดักจับ CO2 ที่ 750,000 ตันต่อปี ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์

✅ Mammoth DAC Facility (ไอซ์แลนด์): Climeworks ดักจับ CO/ 36,000 ตันต่อปี โดยใช้พลังงานหมุนเวียนจาก Orka náttúrunnar / ON Power และจัดเก็บ CO/ ถาวรด้วย Carbfix พร้อมแผนขยายกำลังการดักจับสู่ระดับกิกะตันภายในปี 2050


โครงการเหล่านี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เหล็ก, กระจก, ปูนซีเมนต์, และ พลังงาน โดยแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่หลากหลายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านเทคโนโลยี เช่น การดูดซับด้วยสารละลาย และ สารดูดซับของแข็ง


🎯 เกณฑ์การคัดเลือกเทคโนโลยี:

1) โครงการที่ใช้งานหรือเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อยืนยันว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบและสามารถขยายขนาดได้

2) ประสิทธิภาพ ≥78% ซึ่งแสดงถึงศักยภาพในการจับ CO2 ที่สูง

3) วิธีการใหม่ๆ เช่น #MOFs (Metal-Organic Frameworks) และ #Electrochemical Capture ซึ่งมีข้อดีเหนือระบบแบบดั้งเดิม

4) โซลูชันที่ให้ผลประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การบรรเทาภาวะกรดในมหาสมุทรหรือการมีส่วนสนับสนุนในการกักเก็บพลังงาน

5) โครงการพิเศษ ที่เริ่มต้นหรือประกาศในปี 2024


📕 ข้อมูลสำคัญที่พิจารณาในรายงาน:

1) กระบวนการดักจับ วัสดุ และแหล่งปล่อยมลพิษ

2) ประสิทธิภาพของเทคโนโลยีแต่ละประเภท

3) ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพก๊าซไอเสียที่แตกต่างกัน

4) การใช้งานในอุตสาหกรรมสำหรับแต่ละเทคโนโลยี


✳️ เทคโนโลยีที่ไม่รวมอยู่ในรายการประเมิณนี้:

1) ใช้พลังงานในการดักจับ CO2 มากกว่า 2,000 kWh/ton โดยไม่ได้รับประโยชน์ที่สำคัญ

2) ขาดการพัฒนาหรือไม่มีโครงการที่ดำเนินการอยู่

3) ไม่สามารถรองรับหรือจัดการกับปริมาณการปล่อย CO2 ในระดับอุตสาหกรรมได้

4) กระบวนการแบบดั้งเดิมที่ไม่มีการปรับปรุงที่สำคัญ


🚩 แหล่งที่มาของข้อมูล: #PRESCOUTER


---------------------------------------------------

ติดตามข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่

Facebook: Net Zero Techup


ดู 1 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


Post: Blog2_Post

NET ZERO TECHUP

  • Facebook
  • Instagram
  • YouTube

©2022 by Net Zero Techup

bottom of page