top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนNet Zero Techup

♻️ ไทยผลิต "พลาสติกชีวภาพ" อันดับ 2 ของโลก

อัปเดตเมื่อ 8 มี.ค. 2566


🚩 วันที่ 6 มีนาคม 2566 โฆษกรัฐบาลเปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ เนื่องจากมีวัตถุดิบ อาทิ อ้อย และมันสำปะหลังภายในประเทศจำนวนมากเพื่อการผลิต และด้วยศักยภาพกำลังการผลิตของประเทศอยู่ที่ 95,000 ตันต่อปี และมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตอีก 75,000 ตันต่อปี โดยกว่าร้อยละ 90 ของผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพเป็นไปเพื่อการส่งออก ส่วนที่เหลือจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งการผลิตพลาสติกชีวภาพไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรของไทยเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป็นทางเลือกหนึ่งในการจัดการกับปัญหาที่เกิดจากพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งอีกด้วย


สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมพลาสติกทั่วโลก ปัจจุบันมีการผลิต 360 ล้านตัน โดยในส่วนของประเทศไทยผลิตได้ 9.5 ล้านตัน นำเข้า 2 ล้านตัน ส่งออก 5.5 ล้านตัน ที่เหลือใช้ในประเทศ ซึ่งในไทยขณะนี้จะมีพลาสติกชีวภาพ 2 ประเภท คือ พลาสติกประเภท PLA หรือเม็ดพลาสติกที่ผลิตขึ้นรูปเป็นสินค้าพลาสติกที่ย่อยสลายได้เอง และอีกส่วนของพลาสติกที่ผลิตขึ้นจากพืชไม่สามารถย่อยสลายได้แต่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้


🚩 พลาสติกชีวภาพ คืออะไร

พลาสติกชีวภาพ หรือ พลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Biodegradable Plastic) คือ พลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบทางการเกษตร (Biobased) หรือจากน้ำมันปิโตรเลียม (Petrobased) โดยพลาสติกชีวภาพเหล่านี้มีลักษณะคล้ายพลาสติกทั่วไป สามารถนำมาหลอมและผลิตด้วยกระบวนการขึ้นรูปตามปกติด้วยเครื่องจักรทั่วไปที่อาจมีการปรับแต่งบ้างเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสม สำหรับพลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากวัตถุดิบทางการเกษตรนั้นผลิตจากกระบวนการหมักเพื่อเปลี่ยนวัตถุดิบทางการเกษตรให้เป็นโมโนเมอร์ (Monomer) แล้วจึงนำไปผลิตเป็นเม็ดพลาสติกต่อไป ปัจจุบันวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตพลาสติกชีวภาพได้แก่ ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง


🚩 ทำไมพลาสติกชีวภาพถึงมีความสำคัญ?พลาสติกชีวภาพก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าพลาสติกแบบดั้งเดิมตลอดอายุการใช้งาน พลาสติกชีวภาพสามารถแตกตัวโดยปราศจากการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เนื่องจากพืชที่ใช้ในการผลิตพลาสติกชีวภาพจะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่เท่ากันในขณะที่พวกมันเติบโต อ้างอิงงานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมตีพิมพ์เมื่อ 16 มีนาคม 2560 ผ่านทางเวปไซต์  IOPSCIENCE ระบุว่าการเปลี่ยนจากพลาสติกแบบดั้งเดิมเป็น โพลีเเลกติกเอซิด (PLA) ที่ทำจากข้าวโพดจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสหรัฐฯ ได้ 25% ผลจากการศึกษาได้สรุปว่า หากผลิตพลาสติกแบบดั้งเดิมโดยใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะลดลง 50% ถึง 75%


🚩 พลาสติกชีวภาพ มีกี่ประเภท


✅️ 1. พลาสติกที่ผลิตจากวัสดุชีวภาพ (Biobased) แต่ไม่สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Non-compostable) เช่น โพลีเอสเตอร์ชีวภาพ โพลีเอทิลีน (PE), โพลีโพรพิลีน (PP), โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) โพลีเอไมด์ (PA) บางชนิด และโพลียูรีเทน (PUR)


✅️ 2. พลาสติกที่ผลิตจากวัสดุชีวภาพ (Biobased) และสามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable) เช่น ไบโอโพลีบิวทิลีนซัคซิเนต (BioPBS), โพลีเเลกติกเอซิด (PLA) , โพลีไฮดรอกซีอัลคาโนเอต (PHA)


✅️ 3. พลาสติกจากปิโตรเลียม (Petrobased) แต่สลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable) เช่น พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PBAT)


🚩 ความแตกต่างระหว่างพลาสติก Compostable, Biodegradable, และ Oxo-Degradable


✅️ Compostable Plastic คือ พลาสติกที่เมื่อนำไปผ่านกระบวนการหมักทางชีวภาพแล้ว จะแตกตัวและย่อยสลายจนกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ สารประกอบอินทรีย์ มวล ชีวภาพ และต้องไม่มีส่วนของพลาสติกเหลือที่มองเห็นด้วยตาเปล่า หรือสารพิษเหลืออยู่ โดยที่พลาสติกที่สลายตัวได้ด้วย กระบวนการนี้ ต้องมีอัตราการสลายตัวเทียบได้กับเซลลูโลส และมีมาตรฐานสากลรองรับ ดังนั้น การจัดการพลาสติก Compostable ที่ใช้แล้วอย่างถูกวิธี จึงควรนำไปเป็นส่วนหนึ่งของการทำปุ๋ยหมักหรือฝังกลบในดินพร้อมขยะอินทรีย์ (Compost)


✅️ Degradable Plastic คือ พลาสติกที่แตกตัวโดยสภาวะแวดล้อม เช่น แสงแดด ออกซิเจน ความชื้น หรือ จุลินทรีย์แต่เป็นคำกล่าวแบบกว้างๆ ที่ไม่มีมาตรฐานระบุ ระยะเวลาการย่อยสลายและสิ่งที่แปรสภาพหลังการย่อยสลายเป็นที่ยอมรับในระดับสากล


✅️ Oxo-Degradable Plastic คือ พลาสติกที่ใส่ตัวเร่งปฏิกิริยา เช่น Metal Salts เข้าไปทำให้เกิด การแตกตัวเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเมื่อเจอกับแสงแดด แสงยูวี หรือความร้อน และยังคงตกค้างในสิ่งแวดล้อม ในบางครั้งพลาสติก OXO ถูกเรียกว่า EDP (Environmental Degradable Plastic) แทนคำว่า OXO-Biodegradable


🚩 ปัจจุบันมีผู้ผลิต และผู้บริโภคบางส่วนเข้าใจว่า Oxo-Degradable Plastic เหมือนกับ Compostable Plastic (พลาสติกที่ย่อยสลายได้) หรือเป็นพลาสติกชีวภาพ แต่ในความเป็นจริง Oxo-Degradable Plastic แค่แตกตัวเป็นชิ้นเล็กๆ ยังมีส่วนตกค้างในสิ่งแวดล้อม ไม่จัดเป็นพลาสติกย่อยสลายได้ และไม่ผ่านมาตรฐานสากล EN13432 หรือ ISO17088


โดย Oxo-Degradable Plastics จะผลิตจากพลาสติกทั่วไป เช่น โพลีเอทิลีน (PE) พอลีโพรพิลีน (PP) พอลิสไตรลีน (PS) หรือพลาสติกอื่นๆ ผสมกับสารเติมแต่งทางเคมี ที่อาจประกอบด้วยโลหะหนัก เช่น โคบอลต์ แมงกานีส เหล็ก เป็นต้น สารเติมแต่งนี้ส่งผลให้เกิดการแตกสลายเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ เกิดเป็นไมโครพลาสติก ปนเปื้อนในอากาศ น้ำ อาจปนเปื้อนเข้ามาในห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ได้เนื่องจากขนาดที่เล็กจนยากที่จะคัดกรองออกจากห่วงโซ่อาหาร อีกทั้ง พลาสติก Oxo-Degradable ได้ถูกสารเติมแต่งรบกวนคุณภาพการเสถียรตัวของพลาสติก ทำให้พลาสติกชนิดนี้ไม่สามารถนำมาหลอมใช้ใหม่ได้ (Recycle)


🚩 ประโยชน์ของพลาสติกชีวภาพ


✅️ การหันมาใช้พลาสติกชีวภาพจะช่วยลดการใช้น้ำมันในการผลิตพลาสติกลงได้อย่างมหาศาล ทำให้บริษัทผู้ผลิตพลาสติกมีศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีนัยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)


✅️ นอกจากสามารถสามารถนำมารีไซเคิลได้แล้ว พลาสติกชีวภาพนี้ทำให้ผู้บริโภคมีส่วนช่วยในการรักษ์โลกแม้จะยังมีความจำเป็นต้องใช้งานพลาสติกต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในกิจวัตรประจำวัน อีกทั้งเป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม


✅️ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ด้วยการใช้ผลผลิตทางการเกษตรอย่างอ้อยหรือข้าวโพด ที่ต้องมีการเพาะปลูกอยู่เป็นประจำทุกปีให้สามารถใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการช่วยสนับสนุนเกษตรกรให้มีช่องทางหารายได้เพิ่มอีกด้วย


🚩แหล่งที่มาของข้อมูลเเละรูปภาพ:






---------------------------------------------------

ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่

Facebook: Net Zero Techup

Blockdit: blockdit.com/netzerotechup


ดู 250 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page