top of page
ค้นหา

🌍 𝐂𝐥𝐢𝐦𝐚𝐭𝐞 𝐀𝐜𝐭𝐢𝐨𝐧 𝐍𝐨𝐰! “𝟐𝟎𝟐𝟒 โลกเดือดทะลุ 𝟏.𝟓°𝐂 🔥🌡️

  • รูปภาพนักเขียน: Net Zero Techup
    Net Zero Techup
  • 9 ต.ค.
  • ยาว 1 นาที

🌍 𝐂𝐥𝐢𝐦𝐚𝐭𝐞 𝐀𝐜𝐭𝐢𝐨𝐧 𝐍𝐨𝐰! “𝟐𝟎𝟐𝟒 โลกเดือดทะลุ 𝟏.𝟓°𝐂 🔥🌡️

ปี 2024 ได้ถูกบันทึกว่าเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการเก็บข้อมูลมาในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จากการติดตามของทั้ง NASA และ Copernicus Climate Change Service (C3S) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านภูมิอากาศของสหภาพยุโรป ผลการวิเคราะห์จากทั้งสองแหล่งสอดคล้องกันอย่างชัดเจน โลกของเรากำลังร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปี 2024 ได้ก้าวข้าม “เส้นสีแดง” ของภาวะโลกร้อนที่น่ากังวลที่สุด คือ ระดับ 1.5°C เหนือยุคก่อนอุตสาหกรรม


🚀 ภาพรวมจาก NASA: โลกที่เปลี่ยนสีจากน้ำเงินเป็นแดง


NASA Goddard Institute for Space Studies (GISS) ได้จัดทำแผนที่แบบสี (Color-coded Map) แสดงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวโลกตั้งแต่ปี 1880–2024 โดยเทียบกับค่าเฉลี่ยของช่วงฐาน 1951–1980 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการวัด “ค่าปกติของภูมิอากาศ”

● ในแผนที่ดังกล่าว (ดังแสดงในวิดิโอ) พื้นที่สีขาวหมายถึงอุณหภูมิปกติ สีแดงคือพื้นที่ที่ร้อนขึ้น และสีน้ำเงินคือพื้นที่ที่เย็นลง แต่เมื่อดูจากภาพเคลื่อนไหวตลอดระยะเวลากว่า 140 ปี จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัด จากโลกที่เคยมีสีฟ้าและขาว กลายเป็นโลกที่ถูกปกคลุมด้วยสีแดงแทบทั้งหมดในปี 2024

● NASA รายงานว่า อุณหภูมิโลกในปี 2024 สูงกว่าค่าเฉลี่ยช่วงฐาน 1951–1980 ถึง +1.28°C และหากเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม (1850–1900) จะสูงขึ้นถึง +1.47°C นั่นหมายความว่า มนุษยชาติเข้าใกล้ “เพดานอุณหภูมิ 1.5°C” ที่กำหนดไว้ใน ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) อย่างน่าตกใจ

● มากกว่าครึ่งปี 2024 อุณหภูมิโลกอยู่ในระดับสูงกว่า 1.5°C จากค่าเฉลี่ยฐาน ซึ่งถือเป็น “สัญญาณทางภูมิอากาศ” ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การบันทึกของมนุษย์


📊 ข้อมูลจาก Copernicus: ปีแรกที่โลกทะลุ +1.5°C ทั้งปี


ข้อมูลจาก Copernicus Climate Change Service ภายใต้ศูนย์พยากรณ์อากาศยุโรป (ECMWF) ยืนยันตรงกันว่า

● ปี 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลก อยู่ที่ 15.10°C ซึ่งสูงกว่าเฉลี่ยช่วงปี 1991–2020 ถึง +0.72°C และสูงกว่าปี 2023 ประมาณ +0.12°C

● รายงานฉบับ Global Climate Highlights 2024 ของ Copernicus ยังชี้ว่า ปี 2024 เป็นปีแรกที่อุณหภูมิเฉลี่ยรายปี “ทั้งปี” อยู่เหนือ +1.5°C เมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม (1850–1900) ซึ่งหมายความว่าโลกได้ “ก้าวเข้าไปอยู่ในเขตอันตรายของ Climate Tipping Points” อย่างเป็นทางการ

● ภูมิภาคที่ร้อนขึ้นมากที่สุดในปี 2024 ได้แก่ ยุโรปตอนเหนือ, แคนาดา, อาร์กติก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก การเกิดคลื่นความร้อน และไฟป่าขนาดใหญ่ที่เกิดถี่ขึ้น


🧭 เรากำลังอยู่ที่ “จุดเปลี่ยนของมนุษยชาติ”


เมื่อทั้ง NASA และ Copernicus ต่างยืนยันตรงกัน โลกไม่ได้เพียง “ร้อนขึ้น” แต่มันกำลัง “เปลี่ยนระบบ” ของตัวเอง

● เรากำลังเข้าสู่ ยุค Climate Economy ที่ทุกอุตสาหกรรมต้องปรับตัว เพราะผลกระทบทางภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเดียวอีกต่อไป แต่คือ “แรงกดดันทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์” ที่กำหนดอนาคตของประเทศและธุรกิจทั่วโลก

● ภัยพิบัติทางธรรมชาติสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจระดับหลายล้านล้านดอลลาร์

● พลังงานฟอสซิลกำลังถูกแทนที่ด้วยพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยี Climate Tech

● ตลาดโลกกำลังปรับตัวผ่านกฎคาร์บอน เช่น EU CBAM, ESG Disclosure, และ Carbon Pricing

● ประเทศที่ลงทุนใน พลังงานสะอาด และ Carbon Capture ก่อน ย่อมได้เปรียบในยุคเศรษฐกิจใหม่


🔆 ดังนั้น “Climate Action” จึงไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป แต่คือ ยุทธศาสตร์แห่งความอยู่รอดของมนุษยชาติ ทั้งในระดับประเทศและระดับองค์กรธุรกิจ

⌛ เรามีเวลาไม่มาก ต้องลงมือเดี๋ยวนี้ หรือไม่ก็อาจไม่มีโอกาสอีกเลย


🚩 ที่มาของข้อมูลและวิดีโอ:

#NASA Scientific Visualization Studio (2025). Global Temperature Anomalies 1880–2024.

#Copernicus Climate Change Service (2025). Global Climate Highlights 2024.


 
 
 

ความคิดเห็น


Post: Blog2_Post

NET ZERO TECHUP

  • Facebook
  • Instagram
  • YouTube

©2022 by Net Zero Techup

bottom of page