top of page
ค้นหา

♻️ แบคทีเรียอัจฉริยะ! เปลี่ยน “ขยะพลาสติก” ให้กลายเป็นยาแก้ปวด “พาราเซตามอล” 💊

  • รูปภาพนักเขียน: Net Zero Techup
    Net Zero Techup
  • 1 ก.ค.
  • ยาว 1 นาที

♻️ แบคทีเรียอัจฉริยะ! เปลี่ยน “ขยะพลาสติก” ให้กลายเป็นยาแก้ปวด “พาราเซตามอล” 💊


ปฏิวัติการผลิตพาราเซตามอลครั้งใหญ่! มีการค้นพบว่าแบคทีเรียทั่วไปสามารถเปลี่ยนขยะพลาสติกในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นยาแก้ปวดได้จริง


🔬 ทีมนักวิจัยจาก University of Edinburgh ประเทศอังกฤษ ค้นพบวิธีใช้ ปฏิกิริยา Lossen Rearrangement ซึ่งเป็นปฏิกิริยาเคมีที่ปกติไม่เกิดในสิ่งมีชีวิต ให้เกิดขึ้นได้จริงในแบคทีเรีย E. coli


⚗️ ปฏิกิริยานี้จะเปลี่ยนสารตั้งต้น Acyl Hydroxamate (ที่ได้จากการรีไซเคิลขยะพลาสติก PET) ให้เป็นสารหมู่ Primary Amine ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในกระบวนการสร้างโมเลกุลชีวภาพ


🔄 อธิบายให้เข้าใจง่าย:

พวกเขาใช้แบคทีเรีย E. coli ที่ปลอดภัยและผ่านการปรับแต่งพันธุกรรมแล้ว ย่อยขยะพลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate) ให้ได้ กรดเทเรฟทาลิก (Terephthalic Acid) แล้วนำมากระตุ้นให้เกิด ปฏิกิริยา Lossen Rearrangement เพื่อเปลี่ยนไปเป็นสารตั้งต้นของพาราเซตามอล


🍺 กระบวนการนี้ใช้การหมักที่คล้ายกับการต้มเบียร์ เพื่อเร่งให้ขยะ PET จากอุตสาหกรรม กลายเป็นพาราเซตามอลได้ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง!


🌍 เทคนิคใหม่นี้ทำงานได้ที่ อุณหภูมิห้อง และแทบไม่ปล่อยคาร์บอนออกมาเลย พิสูจน์แล้วว่าการผลิตพาราเซตามอลสามารถทำได้อย่างยั่งยืน


🚀 อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้จัดอยู่ใน TRL 3–4 เพราะเป็น Proof of Concept ที่ยืนยันแล้วในระดับห้องปฏิบัติการ แต่ยังไม่ผ่านขั้น Pilot Scale ทีมวิจัยยังระบุว่าต้องพัฒนาต่อ เพื่อให้สามารถผลิตได้จริงในระดับอุตสาหกรรม แต่ที่น่าทึ่งคือ กว่า 90% ของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการทำปฏิกิริยากรดเทเรฟทาลิกกับ E. coli ที่ออกแบบมาแล้ว คือ พาราเซตามอล


⚙️ งานวิจัยนี้ถือเป็นต้นแบบของการผสาน วิศวกรรมชีวภาพ + เคมีสังเคราะห์ สู่การสร้าง “โรงงานจุลินทรีย์” สำหรับผลิตสารตั้งต้นอุตสาหกรรมและยาในอนาคต งานนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Chemistry เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2025 โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก EPSRC CASE, บริษัทชีวเภสัชกรรม AstraZeneca และ Edinburgh Innovations (EI) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการพาณิชย์ของมหาวิทยาลัย


🚩 แหล่งที่มา: The University of Edinburgh



 
 
 

Comentários


Post: Blog2_Post

NET ZERO TECHUP

  • Facebook
  • Instagram
  • YouTube

©2022 by Net Zero Techup

bottom of page