top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนNet Zero Techup

♻️ รู้หรือไม่? "อิฐแดง" สามารถเปลี่ยนเป็น "แบตเตอร์รี่" ได้


อ้างอิงจากงานวิจัยเมื่อปี 2020 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวจีน

Hongmin Wang และคณะ จากมหาวิทยาลัย Southeast University ได้ตีพิมพ์วารสารทางวิชาการในหัวข้อ "Energy storing bricks for stationary #PEDOT supercapacitors"


✅️ อิฐเผาเป็นวัสดุก่อสร้างที่ใช้อย่างแพร่หลาย ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่มีอายุหลายพันปี ซึ่งในอดีตไม่เคยมีการนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นเลย Hongmin Wang และคณะ (2020) ได้แสดงให้เห็นว่าอิฐสามารถใช้กักเก็บพลังงาน (#Energy #Storage) ได้หลังจากการปรับปรุงทางเคมี (Chemical Treatment) เพื่อแปลงเหล็กออกไซด์ (Iron Oxide) ภายในมวลอิฐให้เป็นนาโนไฟเบอร์ของพอลิเมอร์นำไฟฟ้า (Conducting #Polymer #Nanofibers)


✅️ Wang และคณะ (2020) จึงได้พัฒนาวิธีการสังเคราะห์ทางเคมีที่สามารถขยายขนาดได้อย่างคุ้มค่าและหลากหลาย โดยใช้อิฐเผาในการควบคุมการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันแบบ Radical Polymerization และการตกตะกอน (Deposition) ของเส้นใยนาโน (#Nanofibrillar) โดยการเคลือบผิวด้วยโพลิเมอร์นำไฟฟ้าที่เรียกว่า "PEDOT" หรือ poly(3,4-ethylenedioxythiophene)


✅️ โครงสร้างไมโครแบบเปิด (Open Microstructure) ของอิฐเผา ความทนทานทางกล และคุณสมบัติที่มีส่วนประกอบของ α-Fe2O3 ประมาณ 8 wt% ทำให้อิฐเผาเป็นวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาอิเล็กโทรด PEDOT ผ่านกระบวนการอิเล็กโทรเคมี (#Electrochemical) และความสามารถในการกักเก็บพลังงานประเภทซูเปอร์คาปาซิเตอร์แบบคงที่ (Stationary #Supercapacitors) ที่สามารถซ้อนกันเป็นโมดูลได้อย่างง่ายดาย


✅️ โดยอาศัยอีพ็อกซี (Epoxy) ที่แห้งตัวภายใน 5 นาที ทำหน้าที่เป็นฉนวนกันน้ำ ซึ่งช่วยให้ซุปเปอร์คาพาซิเตอร์ทำงานได้แม้อยู่ใต้น้ำ และสารอิเล็กโทรไลต์ชนิดเจล (Gel #Electrolyte) ช่วยเพิ่มความคงทนในการทำงานให้ยาวนานถึง 10,000 รอบโดยมีการเก็บพลังงานประมาณ 90%


🎯 ในยุคที่พลังงานหมุนเวียนมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต อิฐกักเก็บพลังงานอาจกลายเป็นทางเลือกที่สำคัญอีกหนึ่งตัวเลือก แม้ว่าปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองเพื่อให้พร้อมใช้งานในอนาคต แต่ในอนาคต อิฐเหล่านี้อาจไม่เพียงเป็นวัสดุก่อสร้างสำหรับบ้านเท่านั้น แต่ยังสามารถทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำหรับใช้ในบ้านของเราได้อีกด้วย


🚩 แหล่งที่มาของข้อมูล:


---------------------------------------------------

ติดตามข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่

Facebook: Net Zero Techup


ดู 3 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page