top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนNet Zero Techup

♻️ "คาร์บอนเครดิต" กับ "ใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน" แตกต่างกันอย่างไร ?

อัปเดตเมื่อ 2 ก.ค. 2566

ปัจจุบัน ยังเกิดความสับสนในเรื่องการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Offsets) โดยใช้คาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกกับใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificates: RECs) อยู่เป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตาม แนวทางทั้งสองจะมีต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ องค์กรที่ต้องการจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีทางเลือกที่จะลดผลกระทบที่หลากหลายกิจกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรงและทางอ้อม เช่น มาตรการประหยัดพลังงาน มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน รวมถึงการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งหากทราบถึงความแตกต่างดังกล่าวจะเป็นสิ่งสำคัญต่อการตัดสินใจว่าทางเลือกทั้งสองสิ่งมีประโยชน์ต่อองค์กรของท่านอย่างไร


🚩 คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit)

คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลด/กักเก็บได้จากการดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกผ่านกลไกหรือมาตรฐานการลดก๊าซเรือนกระจกต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น CDM, T-VER, VCS, GS โดยมีหน่วยเป็นตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq) และสามารถนำคาร์บอนเครดิตไปแลกเปลี่ยนหรือซื้อ-ขายเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้จากการดำเนินงานไปรายงานหรือเปิดเผยข้อมูล การนำไปใช้ชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากองค์กร บุคคล งานบริการ หรือจากการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ


🚩 ใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC)

คือ กลไกที่ช่วยให้ผู้ผลิตและผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถอ้างสิทธิ์การผลิตและการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ด้วยการรับรองจากหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของกลไก ช่วยสนับสนุนให้เกิดการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนผ่านการซื้อและขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน ทำให้ผู้ลงทุนพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากการขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน โดยมีหน่วยการซื้อขายคือ REC ซึ่งคำนวณจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจริง (ไฟฟ้า 1 MWh มีค่าเท่ากับ 1 REC)


🚩 วัตถุประสงค์และการใช้งาน

โดยการใช้งานคาร์บอนเครดิตเป็นไปในเป้าหมายของการอ้างสิทธิ์การลด/ดูดซับ ก๊าซเรือนกระจก หรือ สนับสนุนให้เกิดการลด/ ดูดซับก๊าซเรือนกระจก ซึ่งการซื้อคาร์บอนเครดิตจะทำให้องค์กรสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าการลดก๊าซเรือนกระจกด้วยตนเอง และสามารถทำการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)


ขณะที่ การใช้งานใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียนเป็นไปในเป้าหมายของการอ้างสิทธิ์ในการใช้พลังงานหมุนเวียน หรือ สนับสนุนให้เกิดการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งหากพิจารณาจากการคำนวนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร จะจัดอยู่ใน SCOPE II: การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (Energy Indirect Emissions) โดยจำนวน RECs ที่ซื้อมานั้นจะเป็นการลดข้อมูลกิจกรรม (Activity Data) ในแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังงานไฟฟ้าเท่านั้น และสามารถอ้างสิทธิ์ในการใช้พลังงานหมุนเวียน ทดแทนการใช้ไฟฟ้าจากสายส่ง (Conventional Grid) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นองค์การที่ใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมด หรือ RE100 ได้


ดังนั้น จะเห็นได้ว่าแม้ว่าการใช้คาร์บอนเครดิต และ ใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียนจะเป็นทางเลือกในการลดก๊าซเรือนกระจก หรือ ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในองค์กร และช่วยให้องค์กรสามารถไปสู่เป้าหมายด้านการบริหาร แต่กลไกการทำงานกลับแตกต่างกัน และการใช้งานก็แตกต่างกันไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่องค์กรได้เลือกวิธีการตั้งเป้าหมายไว้


🚩 แหล่งที่มาของข้อมูล: #TGO


---------------------------------------------------

ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่


ดู 52 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page